วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

บทความต่อไปนี้ผมได้เรียบเรียงจากภาษาอังกฤษ เรื่อง Eating Fruit


การรับประทานผลไม้ให้ได้ประโยชน์สูงสุด


เราทุกคนย่อมรู้ถึงคุณประโยชน์ของผลไม้ว่ามีผลต่อร่างกายอย่างไร หลาย ๆ คนก็รับประทานผลไม้อยู่เป็นประจำทุกวัน บางคนก็รับประทานหลังอาหาร บางคนก็รับประทานผลไม้เพื่อควบคุมน้ำหนัก ร้านอาหารหลาย ๆ ร้านก็ขายผลไม้ หรือแถมให้หลังจากรับประทานอาหารจานหลัก


ประเด็นคือว่า ไม่ใช่แค่เรารับประทานผลไม้แล้วก็จะได้ประโยชน์เท่านั้น เราควรรู้ว่าเราต้องรับประทานอย่างไร และเมื่อไร เพื่อที่จะทำให้ร่างกายของเราได้รับประโยขน์สูงสุด


เราไม่ควรรับประทานผลไม้หลังจากรับประทานอาหารจานหลัก เราควรรับประทานผลไม้เมื่อท้องว่าง


การรับประทานผลไม้ขณะที่ท้องว่างนั้น จะมีผลในการล้างพิษในระบบขับถ่ายของร่างกาย และช่วยในการควบคุมน้ำหนัก และกิจกรรมอื่น ๆ ของร่างกาย


โปรดจำไว้เสมอว่า ผลไม้เป็นอาหารที่สำคัญที่สุดของมนุษย์


ตัวอย่างเช่น เรารับประทานข้าวผัดเสร็จแล้วรับประทานผลไม้ตาม ผลไม้ที่เรารับประทานเข้าไปควรจะเข้าสู่กระเพาะอาหารและตรงไปสู่ลำไส้ แต่มันไม่สามารถไปตามระบบที่กล่าวมาได้ เนื่องจากข้าวที่เรารับประทานเข้าไปเริ่มย่อยสลายและเปลี่ยนไปเป็นแก๊ส เมื่อผลไม้ที่รับประทานเข้าไปสัมผัสกับอาหารในกระเพาะอาหารและน้ำย่อยผลไม้ ก็จะไม่สามารถทำหน้าที่ได้เต็มที่ เราจึงไม่ได้ประโยชน์จากผลไม้ที่รับประทานเข้าไปตามที่ควรเป็น


โปรดรับประทานผลไม้เมื่อท้องว่างหรือก่อนรับประทานอาหารจานหลัก


เรามักได้ฟังเสียงบ่นเสมอว่า ทุกครั้งที่รับประทานแตงโมแล้วจะเรอ เมื่อรับประทานทุเรียนแล้วท้องจะอืด หรือเมื่อรับประทานกล้วยแล้ว รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ เป็นต้น จริง ๆ แล้ว เหตุการณ์เหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าเรารับประทานผลไม้ขณะที่ท้องว่าง หลักก็คือเมื่อผลไม้ผสมกับอาหารที่เรารับประทานเข้าไปก่อนหน้านั้น ก็จะทำให้เกิดแก๊ส ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการท้องอืด


ผมสีดอกเลาหรือผมขาว ศีรษะล้าน อาการวิตกกังวล หรือ รอยดำภายใต้ขอบตาจะไม่เกิดขึ้น ถ้เรารับประทานผลไม้ขณะท้องว่าง มันไม่เป็นความจริงที่ว่า ผลไม้อย่างส้มหรือมะนาวเป็นกรด เนื่องจากผลไม้ทุกชนิดเมื่ออยู่ในร่างกายของคนเราจะเป็นด่าง จากการศึกษาของ ดร.เฮอเบิร์ท เชลท์ตัน ซึ่งศึกษาในเรื่องนี้ ถ้าเรารู้หลักการที่ถูกต้องในการรับประทานผลไม้ เราก็รู้ถึงเคล็บลับของความงาน อายุยืน สุขภาพที่ดี มีความสุข และควบคุมน้ำหนักของเรา


เมื่อใดก็ตามต้องการดื่มน้ำผลไม้ ให้ดื่มแต่น้ำผลไม้สดเท่านั้น ไม่ใช่ดื่มจากขวดหรือกระป๋อง หรือไม่ดื่มน้ำผลไม้ที่ถูกทำให้ร้อน และไม่ควรรับประทานผลไม้ที่ผ่านการปรุงแล้ว เนื่องจากแทบจะไม่มีสารอาหารเหลืออยู่เลย คุณจะได้แต่เพียงรสชาติอาหารเท่านั้น ขบวนการปรุงอาหารจะสลายวิตามินที่มีอยู่ในผลไม้แทบหมด


การรับประทานผลไม้สด ๆ ให้ประโยชน์มากกว่าการดื่มน้ำผลไม้ อย่างไรก็ตามถ้าจำเป็นต้องดื่มน้ำผลไม้ ก็ค่อย ๆ ดื่มอย่างช้า ๆ เพื่อให้น้ำผลไม้อยู่ในอุ้งปากได้ผสมกับน้ำลายก่อนจะกลืนลงไป เราอาจใช้เวลา 3 วันในการล้างพิษและทำความสะอาดภายในร่างกาย โดยการรับประทานแต่ผลไม้เท่านั้น แล้วเราจะประหลาดใจเมื่อเพื่อน ๆ จะบอกว่าหน้าตาเราดูสดใสแค่ ประโยชน์ของผลไม้แต่ละชนิด


ลูกกีวี่ แม้จะเล็กแต่ประโยชน์มากมาย ลูกกีวี่มี โปแตสเซี่ยม แมกนีเซี่ยม วีตามินอี และไฟเบอร์และมีวิตามินซี มากเป็นสองเท่าของส้ม


แอปเปิล จากสำนวนที่ว่า กินแอปเปิลวันละลูก ก็ไม่จำเป็นต้องไปหาแพทย์ ถึงแม้แอปเปิลจะมีวิตามินซีน้อย แต่แอปเปิลก็มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของวิตามินซี ซึ่งจะช่วยลดความเสียงในการเป็นมะเร็งสำไส้ใหญ่ โรคหัวใจและหัวใจวาย


สตอเบอรี่ ผลไม้ที่มีสารป้องกันอนุมูลอิสระสูงสุด ป้องกันร่างกายจากสาเหตุของโรคมะเร็ง เส้นเลือดตีบ และอนุมูลอิสระ
ส้ม เปรียบเสมือนยาที่หวานที่สุด รับประทานส้ม 2-4 ลูกทุกวัน ก็ไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์ การรับประทานสัมช่วยป้องกันโรคหวัด ลดคอเลสโตรอล ป้องกันโรคนิ่ว และลดโอกาสในการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่

แตงโม เป็นผลไม้ที่ช่วยแก้กระหายได้ดี จากการที่แตงโมมีส่วนผสมของน้ำประมาณร้อยละ 92 มันยังมีกลูต้าไตรโอนสูง ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และยังเป็นแหล่งของไลโครฟีน ซึ่งเป็นสารต้านมะเร็ง ส่วนวิตามินอื่นๆ ที่พบในแตงโม คือ วิตามินซี และ โปแตสเซ๊ยม
ฝรั่งและมะละกอ ฝรั่งเป็นผลไม้ที่ให้วิตามินซีสูงที่สุด และยังมีไฟเบอร์มาก ซึ่งจะช่วยแก้ท้องอืด ส่วนมะละกอมีแคโรทีนมาก ซึ่งมีประโยชน์สำหรับสายตา


การดื่มน้ำเย็นหลังจากการรับประทานอาหาร อาจเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง คุณเชื่อหรือไม่


สำหรับใครก็ตามที่ชอบดื่มน้ำเย็น บทความนี้อาจมีประโยชน์สำหรับคุณ มันอาจเป็นการดีที่ได้ดื่มน้ำเย็นสักแก้วหลังจากรับประทานอาหาร อย่างไรก็ตาม น้ำเย็นอาจทำให้อาหารที่มีส่วนประกอบของไขมัน ที่เราเพิ่งจะรับประทานไปจับตัว ซึ่งจะทำให้ขบวนการย่อยทำงานได้ช้าลง ซึ่งไขมันที่จับตัวนี้เมื่อผสมกับกรด มันจะแตกตัวและดูดซึมผ่านลำไส้ได้ดีกว่าสารอาหาร มันจะอยู่ในลำไส้และจะเปลี่ยนไปเป็นไขมันอย่างรวดเร็วและเป็นสาเหตุของมะเร็ง มันจะเป็นการดีที่จะดื่มซุปร้อน ๆ หรือน้ำอุ่นหลังอาหาร


ข้อพึงระวังเกี่ยวกับหัวใจวาย


เราควรรู้ไว้ว่า อาการโรคหัวใจไม่ได้เริ่มจากการปวดแขนซ้ายเสมอไป ให้ระวังเรื่องการปวดกรามไว้ด้วย คุณอาจยังไม่เคยเจ็บหน้าอกเลยในการเกิดหัวใจวาย อาการคลื่นไส้และเหงื่อไหลเป็นอาการร่วมของโรค ร้อยละหกสิบของผู้ป่วยโรคหัวใจ หัวใจวายตายขณะที่นอนหลับ อาการเจ็บกรามอาจช่วยปลุกคุณจากการหลับ โปรดระวังและตระหนักไว้เสมอว่า การศึกษาเรียนรู้มากขึ้นเป็นการเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิต


แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ กล่าวไว้ว่า ใครก็ตามที่ช่วยส่งบทความนี้ให้บุคคลอื่นสิบคน ท่านแน่ใจได้เลยว่า จะช่วยชีวิตคนได้อย่างน้อยหนึ่งชีวิต


บทความนี้อ่านแล้วมันอาจช่วยชีวิตของคุณ เรียบเรียงเป็นภาษาไทยโดยนพพร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น